Mayarun(e) - นิยาย Mayarun(e) : Dek-D.com - Writer
×

    Mayarun(e)

    พ่อมดแม่มดน่ะหรือ? นั่นคือสิ่งที่มนุษย์เรียก แต่พวกเราเป็น Mayarun(e) ต่างหาก พวกเราไม่มีเวทมนตร์เป็นของตัวเอง แต่หยิบยืมพลังมาจากธรรมชาติ รู้จักมั้ยสาวกพระเจ้าปราบปีศาจร้ายตามความเชื่อของเผ่ามายา

    ผู้เข้าชมรวม

    637

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    637

    ความคิดเห็น


    10

    คนติดตาม


    37
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.พ. 61 / 14:59 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                   





    เคิร์ตเป็นเด็กชายร่างผอมเก้งก้าง  ถึงเขาจะเพิ่งอายุแค่สิบห้าปีแต่ส่วนสูงของเขามากกว่าเพื่อนๆในวัยเดียวกันเสียอีกจนบางทีเขามักโดนล้ออยู่บ่อยๆ   ผมสีน้ำตาลเข้มเหมือนช็อกโกแลตตัดกับสีผิวขาวซีดของเขา  ดวงตาสีเทาหม่นยิ่งทำให้ผิวเขาดูซีดเซียวมากขึ้นไปอีก  ในบรรดาอวัยวะของร่างกาย  สิ่งที่เคิร์ตเกลียดมากที่สุดคือดวงตาของเขา 

                    เคิร์ตมักมีปัญหากับดวงตาตัวเองเสมอ   ถ้าเป็นคนปกติปัญหาทางสายตาคงเป็นเรื่องสายตาสั้นหรือยาวจนเกินไป   แต่กับเคิร์ตนั้น  ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่สายตาเขาไม่ดี  แต่ต้องเรียกว่าสายตาดีจนผิดปกติมากกว่าคนทั่วไปเสียอีก  และนี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดดวงตาของตัวเองนัก

                    ดวงตาสีเทาเจ้าปัญหา...

                ชีวิตของเคิร์ตจะดีมากกว่านี้ถ้าดวงตาของเขาไม่นำเรื่องเดือดร้อนมาให้เขาอยู่เสมอ  เด็กชายมักเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นเสมอ  สิ่งที่เขาหาคำอธิบายไม่ได้ว่ามันคืออะไร

                    กระรอกพูดได้...  ชายท่าทางสติไม่ดีที่สวมเสื้อคลุมปอนๆคาดเข็มขัดที่เต็มไปด้วยถุงผ้าขนาดต่างๆรอบเอว  แถมชายคนนั้นยังพกก้อนหินกลมแบนและพยายามหักกิ่งไม้อีกด้วย...

                    แต่สิ่งที่น่ากลัวมากกว่านั้น

                    สิ่งที่ดูคล้ายหมาที่มีลิ้นสีม่วงเขียวห้อยยาว  มีขาถึงหกขา...  

    สิ่งมีชีวิตที่มีขนหยาบยาวสีดำที่มีไม่มีตา  แต่มีปากรอบลำตัวที่เหมือนงูขนดก...

    แมวที่มีปากถึงสองปาก...

    และ...  ร่างสีดำมหึมาสูงราวเจ็ดฟุตมีกลิ่นเหม็นสาบ  ขนสีดำดูสากและหยาบกระด้าง   มันมีแขนยาวลากพื้น  นิ้วแต่ละอันยาวไม่เท่ากัน  และเมื่อเคิร์ตมองสูงขึ้นที่ใบหน้าของมัน  มันกลับไม่มีดวงตาหรือจมูก  มีเพียงปากหลายขนาดน้อยใหญ่เรียงตัวอย่างไม่เป็นระเบียบบนใบหน้าดูน่ากลัว   มันก้มลงมาหาเขาใกล้ๆ   และเริ่มออกไล่ล่า...



    “นี่นายกำลังจะบอกฉันว่า  นายเห็นเตเนบริสงั้นเรอะ!”  เด็กชายประหลาดที่จีอิลถาม 

    “อะไรนะ  เตเนบริสคืออะไร”

     “อืม  --  พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือมันเป็นปีศาจร้ายที่คอยสร้างอุบัติเหตุ  โรคร้าย  หรือเหตุการณ์อะไรก็ได้ที่คร่าชีวิตมนุษย์โดยที่พวกมนุษย์อย่างพวกนายไม่รู้เลยสักนิดว่าเป็นฝีมือมัน  --  ถึงแม้บางครั้งมันจะสามารถแปลงกายเป็นคนหรือสัตว์อะไรหลอกพวกนายก็ตาม  แต่  --  ให้ตายเถอะ!  นายเป็นมนุษย์คนแรกเลยนะที่มองเห็นร่างที่แท้จริงของพวกมัน  นายเคยเห็นมันมาก่อนหรือเปล่า  --  ฉันหมายถึงว่าที่ไม่ใช่รูปลักษณ์ของสัตว์ปกติ  หรือสัตว์  --  อะไรนะ  --  อ้า!  เทพนิยายอย่างมังกรูใช่ไหม  นั่นแหละ  อะไรที่ไม่ใช่พวกนั้น  คือร่างที่แท้จริงของมันล่ะ”


     

    เคิร์ตขมวดคิ้ว  “นายจะบอกว่าตัวนายเองเป็นพ่อมดอย่างนั้นสินะ  ขอเถอะ  นี่มันศตวรรษที่เท่าไหร่แล้ว  ฉัน  --  “

    “โอ๊ย!  พ่อมดงั้นเรอะ  ให้ตาย!  พวกเราไม่ใช่พ่อมดหรอก”  จีอิลโบกมืออย่างรำคาญ   “ถึงมันจะเป็นคำที่พวกมนุษย์เรียกเหมารวมพวกเราแบบนั้น  แต่รู้อะไรมั้ย  ฉันน่ะเป็นมายารัน  สถานะธอร์นเนสเชียวนะ”


     

    แต่แล้วในคืนวันฮาโลวีนก็เปลี่ยนชีวิตของเด็กชายไปตลอดกาล  เมื่อเขาถูกเตเนบริสตามล่าอีกครั้ง  ระหว่างที่เด็กชายคิดว่าวาระสุดท้ายของชีวิตมาถึงแล้ว  คอเสื้อของเขาก็ถูกกระชากอย่างแรง

    “นายเป็นอะไรหรือเปล่า”   เสียงอันแสนจะคุ้นเคยของจีอิลดังขึ้นเหนือศีรษะของเคิร์ต  เขามัวแต่ตกตะลึงที่รอดตายจนลืมไปว่าตอนนี้ขาของเขาไม่ได้อยู่ติดพื้น  เมื่อเงยหน้าขึ้นไป  เด็กชายก็พบว่าจีอิลกำลังขี่บันไดไม้ไผ่และมือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อของเขาไว้

    หลังจากที่หวุดหวิดจะร่วงตกอยู่หลายครั้ง  ในที่สุดเคิร์ตก็สามารถปีนขึ้นมาขี่บันไดไม้ไผ่ได้สำเร็จ   เขามองกลับลงไปเบื้องล่าง   แสงสีของตึกอารามและรถกลายเป็นจุดเล็กๆ   เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าตอนนี้ตัวเขาลอยอยู่สูงมากแค่ไหน  สายลมเย็นๆในช่วงกลางคืนพัดกระทบใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ  เคิร์ตจับบันไดไม้ไผ่ไว้แน่นด้วยความกลัวตก

    “นายทำให้บันไดนี่ลอยได้ยังไง”   เขาถามด้วยความฉงน

    จีอิลยักไหล่ด้วยท่าทางสบายๆ   “ฉันแค่ขอให้มันลอยน่ะสิ”

    เคิร์ตเบิกตาโตอย่างไม่อยากจะเชื่อ   “ขอให้มันลอยน่ะเหรอ  แต่  --  ทำไมนายไม่ใช้ไม้กวาดล่ะ  แบบ  --  อย่างที่ฉันรู้มา  พวกพ่อมดแม่มดต้องขี่ไม้กวาดเหาะได้ไม่ใช่หรือไง”

    จีอิลกลอกตาอย่างรำคาญ   “ให้ตาย!   ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่พ่อมด  เอางี้นะ  --  พวกมนุษย์อย่างนายคงสับสนว่าพวกที่มีเวทมนต์ต้องขี่ไม้กวาดใช่มั้ย  นั่นมันเป็นเพราะพวกนายติดภาพยัยทวดของทวดของทวดของทวดอลิซมาน่ะสิว่าต้องขี่ไม้กวาด   เอาเข้าจริงวัตถุอะไรก็ตามที่ทำจากไม้สามารถลอยได้ทั้งนั้นล่ะ  แล้วสมัยนั้นมันก็มีแต่ไม้กวาดใช่ไหมล่ะที่ทำจากไม้และใหญ่พอที่จะรับน้ำหนักเราไหว  จริงๆเราขี่ท่อนซุงหรือต้นไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากด้วยนะ   แบบถอนรากมันขึ้นมา  --  อ่า   แต่วิธีนี้ออกจะหยาบคายต่อพวกต้นไม้อยู่สักหน่อย  --   แล้วเราก็ขอให้มันเหาะพาไปที่ไหนๆ  --  “

     


    “ที่ฉันจะพูดก็คือ  การที่นายมองเห็นเตเนบริสมันเป็นเรื่องที่แปลกมาก  และหลังจากที่โฟห์แอบติดตามนาย  --  อย่าเพิ่งพูดแทรก  รอฉันพูดให้จบก่อน  --  คืองี้นะ   ฉันเพิ่งสังเกตเห็นล่ะว่าเจ้าเตเนบริสมันจ้องจะเล่นงานแต่นายคนเดียว  ถ้ามันเอาชีวิตนายไม่ได้  มันก็จะยังล่าตัวนาย  อย่างเช่นคืนนี้  --  “

    “แล้วตอนนี้มันอยู่ที่ไหนล่ะ  มันยังอยู่บนถนนหรือเปล่า  แล้วทำไมนายมีเวทมนต์ถึงไม่ทำอะไรสักอย่างกับมันล่ะ  --  แล้วหลังจากที่นายพาฉันหนีมา  ผู้คนตรงนั้นไม่พากันโดนฆ่าตายหรือไง”  เคิร์ตถามแทรกขึ้นมาอย่างอดทนไม่ไหว  เขาเห็นจีอิลขยี้ผมตัวเองและมีสีหน้ายุ่งยากใจ

    “ปกติเตเนบริสขนาดตัวเท่านั้นมักไม่ออกล่ามนุษย์ในบริเวณกว้างหรอก  ถ้ามันคิดที่จะสร้างอุบัติเหตุแบบนั้นมันมักตัวใหญ่กว่านั้น  ไม่ก็ออกล่าเป็นกลุ่ม  --  “

    “เดี๋ยวนะ  นี่นายกำลังจะบอกฉันว่าไอ้ตัวเตเนบริสนั่นยังมีตัวใหญ่มากกว่านี้  แถมยังมีอีกหลายตัวด้วยอย่างนั้นเหรอ”  เคิร์ตอยากจะบ้าตายเมื่อเห็นจีอิลพยักหน้า 

    “ปกติมันไม่ได้ออกมาเยอะมากขนาดนี้  แต่ช่วงวันฮาโลวีน  พวกดวงจิตของมนุษย์ที่ตายไปแล้วจะมีมากกว่าปกติ  ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะดึงดูดให้พวกเตเบริสออกมา   เพราะพวกมันกินวิญญาณเป็นอาหาร”

    “แล้วอย่างนี้  คนตรงนั้นไม่โดนมันฆ่าตายหรือไง”  เคิร์ตพยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่นเมื่อนึกผู้คนบนนถนนสายนั้นที่เขาเพิ่งหนีเอาตัวรอดมา

    “เอ้อ  ฉันเชื่อว่ามนุษย์พวกนั้นไม่โดนมันฆ่าตายหรอก  --   อย่างที่บอก  วันนี้มันน่าแปลกที่เตเนบริสตัวนั้นพยายามล่านาย  มันไม่เคยเจาะจงเหยื่อมาก่อน   และฉันเดาเอาว่าสาเหตุมันเป็นเพราะว่านายมองเห็นพวกมันน่ะ”

    คำพูดของเด็กชายผมสีน้ำตาลอ่อนทำให้เคิร์ตตัวสั่น  เขาไม่เข้าใจเลยว่าการที่เขาเห็นเตเนบริส  ทำไมต้องถูกล่าด้วย  เขาไม่เคยคิดที่จะทำร้ายพวกมันมาก่อน  กลับกันเขาพยายามหลีกเลี่ยงมาเสมอ

    “แล้วการที่ฉันเห็นมัน  ทำไมมันถึงต้องพยายามฆ่าฉันด้วยล่ะ”  เคิร์ตถาม

    จีอิลยักไหล่พลางสั่นหัว   “ฉันเองก็ไม่รู้  และถ้านายอยากรู้คำตอบ  ฉันคิดว่านายต้องตามฉันกลับไปมายารัน”

    ระหว่างที่เคิร์ตลังเล

    “จริงๆแล้วพวกเราชาวมายารันไม่ค่อยชอบมนุษย์นักหรอก”  และเมื่อจีอิลเห็นสีหน้าฉงนของเคิร์ต  เขาจึงรีบเสริมต่อไปว่า  “ฉันหมายถึงว่า  --   ถึงพวกเราจะมีหน้าที่ปราบเตเนบริสปกป้องมนุษย์ก็ตาม  แต่สิ่งที่พวกมนุษย์ทำกับพวกเราไว้ในอดีตมันเป็นรอยด่างพร้อยขนาดใหญ่ที่ไม่มีใครสามารถลืมมันได้ลงหรอก   --  อย่าเพิ่งถามเลยว่ามันคืออะไร  ฉันคิดว่าตอนนี้นายไม่มีทางเลือกมากนักหรอก  ในเมื่อตอนนี้นายถูกเตเนบริสหมายหัวอยู่  มีทางเดียวที่นายจะรอดคือไปกับฉัน   บางทีเราอาจได้คำตอบ   เพราะฉันเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันที่ทำให้เตเนบริสหลุดออกมา”

    คำบอกเล่าของจีอิลว่าพวกชาวมายารันไม่ชื่นชอบพวกมนุษย์อย่างเขา  ทำให้เด็กชายต้องคิดหนัก  อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเขาเดินเข้าไปในดงของผู้คนที่ใช้เวทมนต์ได้  เขาจะโดนฆ่าตายหรือเปล่า  และที่นั่นมันอยู่ส่วนไหนของโลก  ในเมื่อทุกวันนี้ผืนดินทุกแห่งถูกมนุษย์สำรวจจนหมดแล้ว  หรือว่าเมืองมายารันจะอยู่ใต้ทะเลหรืออวกาศ...

    “ก่อนที่ฉันจะตอบนาย  ฉันอยากรู้ว่าเมืองมายารันอยู่ที่ไหน” 

    จีอิลฉีกยิ้มกว้างก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงโอ่ๆว่า

    “เมืองมายารันโอบล้อมอยู่รอบลำต้นของอิกดราซิล  ต้นไม้แห่งชะตาลิขิต



    ****************************************************

    เรื่อง  "มายารัน"  ได้แรงบันดาลใจมาจากชนเผ่ามายาค่ะ  ภาพของชาวมายาเกี่ยวกับพระเจ้าที่มีรูปหนึ่ง  สาวกของพระเจ้ากำลังปราบปีศาจ   ไรท์ก็เลยจุดประกาย  ถ้าใครกำลังสงสัยว่าอักษรรูนมาเกี่ยวข้องอะไรกับชาวมายา  ไรท์อยากจะบอกว่า  หลังจากที่ค้นประวัติศาตร์มามากมาย   มีความเกี่ยวข้องแน่นอน  เพราะมีจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ใครๆต่างมองข้าม  แต่ไรท์ยังไม่เฉลยนะคะว่ามาได้อย่างไร  จะค่อยๆเล่าในวรรณกรรมค่ะ  เรื่องนี้อิงประวัติศาสตร์จริง  สถานที่ที่มีอยู่จริงทั่วโลกที่ยังเป็นปริศนา  นักประวัติศาสตร์ยังขบคิดไม่แตก  รวมทั้งตำนานปรัมปราบางเรื่องที่ไรท์นำมาผูกรวมกันค่ะ  

    ***ไรท์ตั้งใจจะอัพสัปดาห์ละตอนค่ะ***   

     

              ฝากติดตามเรื่อง    ด้วยนะคะขอบคุณมากๆเลยค่ะ

    B
    E
    R
    L
    I
    N
    ?

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น